วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แดนน้ำลี้ลับแห่งลำน้ำ 3 สาย

     ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 16 ปีก่อนในยุคปี 80 ของศตวรรษก่อน เจ้าหน้าที่ขององค์การยูเนสโกได้ค้นพบ ‘แดนน้ำ 3 สาย’ เข้าโดยบังเอิญ ขณะพิจารณาดูแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมของพื้นดินแถบซีกโลกเหนือ จึงรีบติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประจำมณฑลซื่อชวน(เสฉวน) เพื่อให้จัดการดำเนินเรื่องเสนอชื่อเข้าเป็นมรดกโลก


    แต่แล้วเขาถึงก็ต้องตกตะลึงอย่างคาดไม่ถึง เมื่อพบว่า แดนธรรมชาติงดงามอันน่าอัศจรรย์ที่โอบล้อมด้วยขุนเขา 4 ลูก(เทือกเขาลี่ข่าซัน เกาหลีก่งซัน นู่ซัน และหยุนหลิ่ง) และมีแม่น้ำใหญ่ 3 สายไหลผ่านแห่งนี้ ไม่ได้ตั้งอยู่ที่มณฑลซื่อชวนแต่กลับอยู่ในแดนลี้ลับแห่งมณฑลหยุนหนัน

แดนน้ำ 3 สาย สมญานามที่เกิดจากการไหลผ่านของแม่น้ำสายใหญ่ถึง 3 สาย ได้แก่
 
 
นู่เจียง’(กลาง) นับเป็นแม่น้ำสากลสายสำคัญอีกเส้นหนึ่ง ที่มีจุดกำเนิดจากเทือกเขาสูงทางตอนเหนือของเขตปกครองตนเองทิเบต โดยตอนต้นน้ำมีชื่อเรียกว่า ซังชีว์ ไหลลงทิศตะวันตกเฉียงใต้ แล้วเปลี่ยนทิศทางเป็นตะวันออกเฉียงใต้ในชื่อว่า น่าชีว์


ต่อมาจึงไหลมุ่งสู่ทิศตะวันออก และกลายเป็นแม่น้ำนู่เจียงที่มีทิศทางมุ่งลงสู่ตะวันออกเฉียงใต้เข้าสู่มณฑลหยุนหนัน และไหลลงทางใต้ไปเรื่อยๆ จนผ่านเข้าประเทศพม่าที่รู้จักกันในนามว่า ‘แม่น้ำสาละวิน’ ซึ่งไหลออกสู่ทะเลอันดามันที่เมืองมะละแหม่ง

หลันชางเจียง’ (ขวา)จัดเป็นแม่น้ำสายใหญ่อันดับห้าของจีน ซึ่งมีต้นกำเนิดจากเชิงเขาลูกหนึ่งของเทือกเขาถังกู่ลาซันบนที่ราบสูงทิเบตในมณฑลชิงไห่ โดยมีชื่อเรียกแหล่งน้ำตอนต้นนี้ว่า จาชีว์ ไหลจากตะวันตกเฉียงเหนือสู่ตะวันออกเฉียงใต้ และภายหลังผ่านชางตู เมืองทางด้านตะวันออกของเขตปกครองตนเองทิเบต จึงเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น ‘แม่น้ำหลันชางเจียง’

จากนั้นไหลเรื่อยผ่านเข้าสู่มณฑลหยุนหนัน และต่อเนื่องลงสู่ดินแดนตอนใต้กลายเป็น ‘แม่น้ำโขง’ แม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านดินแดนต่างๆอีก 5 ประเทศ ได้แก่ พม่า ลาว ไทย กัมพูชา แล้วจึงไหลออกสู่ทะเลจีนใต้ที่ประเทศเวียดนาม

จินซาเจียง’(ซ้าย) ต้นกำเนิดของ ‘แม่น้ำฉางเจียง’ หรือแยงซีเกียง ที่เป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่สุดของจีน โดยไหลผ่านลงมาตามเส้นเขตแดนของมณฑลซื่อชวนและเขตปกครองตนเองทิเบต เรื่อยลงสู่มณฑลหยุนหนัน(ยูนนาน) แล้ววกย้อนขึ้นเหนือที่เขตสือกู่ อำเภอลี่เจียง

      อีกทั้งยังเป็นดินแดนที่อุดมด้วยพืชไม้นานาพันธุ์กว่า 6,000 ชนิด และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอีกกว่า 700 ชนิด (สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 173 ชนิด นก 417 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 59 ชนิด สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 36 ชนิด ปลาน้ำจืด 76 ชนิด จำพวกผีเสื้อและแมลง 31 ชนิด)


     ขณะเดียวกันก็เป็นที่อยู่อาศัยของชนกลุ่มน้อยกว่า 8 แสนคนจาก 16 ชนชาติ จึงกลายเป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางภาษา ประเพณีวัฒนธรรม และความเชื่อต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว


แดนน้ำ 3 สาย ต้อนรับนักท่องเที่ยว ผู้ใฝ่หาความงามแห่งธรรมชาติและขุนเขา ด้วย 8 เขตใหญ่ๆ ดังนี้



1) เขตอนุรักษ์ธรรมชาติเขาเกาหลีก่งซัน – แหล่งรวมพืชพรรณนานาชนิดที่มีสภาพอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในเอเชียตะวันออก และจัดเป็นสถานที่เที่ยวชมความงามแถบลุ่มน้ำนู่เจียงที่สวยที่สุด

2) เขตอนุรักษ์ธรรมชาติเขาเหมยหลี่ซัน - มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ยอดเขาสูง 6,740 เมตร ณ วันนี้ยังไร้ผู้พิชิต เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศและสภาพอากาศที่เลวร้าย นอกจากนี้ยังเป็นแบบฉบับความงามของหุบเขาแถบลุ่มน้ำหลันชางเจียง

3) เทือกเขาฮาปาซัน – แบบฉบับความงามอันวิจิตรจากการไหลผ่านทิวเขาที่ทอดตัวยาวเหยียดของลุ่มน้ำจินซาเจียง และถูกยกย่องให้เป็นแหล่งค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ธรรมชาติยุคน้ำแข็งแหล่งใหญ่ โดยมีการค้นพบร่องรอยธารน้ำแข็งเก่าและใหม่ บนยอดเขาสูง 5,396 เมตรจากระดับน้ำทะเล

4) เขาเชียนหู - อุดมด้วยทะเลสาบใหญ่น้อยกว่าร้อยแห่ง ถือเป็นแหล่งชุ่มชื่นแถบที่ราบสูงลุ่มน้ำจินซาเจียง ที่มีความสมบูรณ์ในเชิงระบบนิเวศวิทยาอีกแห่งหนึ่งภายในอาณาบริเวณแดนน้ำ 3 สาย

5) เขาหงซัน – หนึ่งในพื้นที่ร่มรื่นที่มีความสมดุลตามระบบนิเวศในแถบลุ่มน้ำจินซาเจียง งามด้วยความหลากหลายทางภูมิประเทศ ทั้งแบบที่ราบสูง ที่ราบลุ่ม ทุ่งหญ้า ทะเลสาบ และมีร่องรอยของธารน้ำแข็งเก่า

6) ทิวเขาหยุนหลิ่ง - มีสัตว์หายากใกล้สูญพันธุ์ที่สำคัญอย่าง ‘ลิงขนทอง’ เป็นตัวแทนสัตว์ป่าในความคุ้มครองทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้

     ซึ่งจากผลการสำรวจครั้งล่าสุดพบว่า มีลิงขนทองอาศัยอยู่ทั้งสิ้น 4 กลุ่ม คิดเป็น 1 ใน 10 จากจำนวนทั้งหมดที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบันคือ 1,500-2,000 ตัว และมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งสิ้น 28 ชนิด โดยพื้นที่ในแถบนี้มีความอุดมสมบูรณ์ มีพืชคลุมดินเป็นอัตราส่วนถึง 76%

7) เขาเหล่าจวิน – เป็นพื้นที่บริเวณตอนปลายแม่น้ำจินซาเจียงของแดนน้ำ 3 สาย ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,200 เมตรขึ้นไปนั้น อุดมไปด้วยสวนป่าต้นนกแขกเต้ากว่า 100 ชนิด นับเป็นเขตที่มีความหลากหลายของพืชชนิดนี้มากที่สุดในแถบลุ่มน้ำจินซาเจียง เกิดเป็นภาพสวนสวรรค์ที่งดงามหาชมได้ยากยิ่ง

8) เขาเหล่าวอ – อาณาบริเวณตอนปลายแม่น้ำหลันชางเจียงของแดนน้ำ 3 สาย นับเป็นเขตที่ช่วยเสริมการชื่นชมทัศนียภาพความงามตามธรรมชาติในรูปแบบต่างๆได้อย่างดี เนื่องจากการให้ความสำคัญเชิงอนุรักษ์ทางธรรมชาติทั้งทะเลสาบ ทุ่งหญ้า และสวนดอกไม้ป่า

                     ทิวทัศน์ในฤดูหนาว           ยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะ       แม่น้ำสามสายอันเลื่องชื่อ
ข้อมูล

มรดกโลกทางธรรมชาติ ปี ค.ศ. 2003 จัดเป็นมรดกโลกลำดับที่ 29 ของประเทศจีน

ที่ตั้งและอาณาเขต ณ เมืองลี่เจียง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหยุนหนัน ระหว่างเส้นลองติจูด 98องศา ถึง 100 องศา 30 ลิปดาตะวันออก และเส้นละติจูด 25 องศา 30 ลิปดา ถึง 29 องศาเหนือ

    นับเป็นพื้นที่กว่า 41,000 ตารางกิโลเมตร โดยมีแม่น้ำ 3 สายใหญ่ ไหลผ่านคิดเป็นระยะทางจากเหนือลงใต้ยาวกว่า 170 กิโลเมตร ซึ่งระยะชิดใกล้กันที่สุดของทั้ง 3 สายนั้น วัดได้ห่างกันเพียง 66 กิโลเมตร แต่กลับมีปลายทางแยกไหลออกสู่ทะเลไกลห่างกันถึง 3,000 กิโลเมตร แดนน้ำ3สายนี้ จึงนับเป็นแดนมหัศจรรย์มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก.



                                        สระสวรรค์ "เทียนฉือ"       วัดเฟยไหลซื่อ(飞来寺)ที่เขาเหมยลี่ซัน

ข้อมูลเดินทาง


    เดินทาง - แดนน้ำสามสาย อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงาม ที่มีชื่อเสียงของเมืองเซียงเกอหลี่ลา(แชงกรีล่า 香格里拉) มณฑลหยุนหนัน เมืองใน 'เส้นทางขี่ม้าค้าใบชา' (茶马古道)ในสมัยโบราณ (หรือเส้นทางสายแพรไหมตอนใต้) ยังมีทิวทัศน์ใกล้เคียงกับทิวเขายอดหิมะในแถบเขตปกครองตนเองทิเบต เพราะมีชายแดนติดต่อกัน

        นักเดินทางมักเลือกเดินทางโดยรถยนต์จากเมืองลี่เจียง (丽江 -ราว 200 กม.) เต๋อชิน (德钦 -ราว 145 กม.) ต้าหลี่ (大理 -ราว 300 กม.) หรือคุนหมิง (昆明 -ราว 635กม.) ซึ่งอาจใช้เวลาเป็นวันๆ

         เมืองแชงกรีล่ามีสนามบินภายในประเทศ ซึ่งห่างจากตัวเมืองเพียง 6 กม. แต่โดยทั่วไปมีเครื่องลงน้อย ส่วนใหญ่บินจากเมืองคุนหมิง

         แดนน้ำสามสายเป็นเขตทิวทัศน์ซึ่งมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่มาก และมีจุดชมความงามหลายแห่ง จำเป็นต้องใช้เวลาเดินทางและท่องเที่ยวอย่างน้อย 3 วัน ซึ่งสามารถใช้บริการทัวร์ท้องถิ่น 3-4 วัน

        อุณหภูมิ - อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 5.1 องศาเซลเซียส เดือนมกราคมอุณหภูมิเฉลี่ย -4.1 องศาฯ เดือนกรกฎาคมอุณหภูมิเฉลี่ย 13.2 องศาฯ ฤดูใบไม้ร่วงเหมาะแก่การท่องเที่ยวที่สุด.



            ท้องฟ้า สายลม แสงแดดและลมหนา; ใครสนใจก็ไปเที่ยวชมได้ค่ะ  บรรยากาศแบบนี้นึกถึงเมืองเหนือของเรา(ซึ่งก็สวยเหมือนกัน)!!!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น